วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

แบบฝึกหัด บทที่ 6 การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน



แบบฝึกหัด

บทที่ 6 การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน                  กลุ่มที่เรียน   1

รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน              รหัสวิชา 0026 008

ชื่อ –สกุล   นายธีระศักดิ์  ศรีโห                                                   รหัส 57012310115

คำชี้แจง  จงตอบคำถามต่อไปนี้
1.นิสิตใช้ Social software  ใดบ้างในชีวิตประจำวันและใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด
      1) Blog
         Blog มาจากคำเต็มว่า WeBlog บางครั้งอ่านว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log แต่ ทั้งสองคำบ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน  Blog คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์  ใน blog นั้นจะมีเนื้อหาเป็นเรื่องใดก็ได้  เช่น  การเขียนเรื่องราวของตนเอง  การเขียนวิจารณ์เรื่องราวหรือหัวข้อหรือสิ่งที่ตนเองสนใจต่าง ๆ  เช่น  การเขียนวิจารณ์สถานการณ์การเมืองของประเทศไทย   หรือการบอกถึงผลที่ได้รับจากการใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ตัวเองเคยใช้ หรือซื้อมา เป็นต้น
Blog ประกอบด้วย ข้อความ, hypertext, รูปภาพ และ ลิงค์ (ไปยังเว็บ, วีดีโอ, ข้อมูลเสียงและอื่นๆ) blog จะอยู่ในรูปบทสนทนาระหว่างเอกสาร โดยผู้ที่ใช้ blog สามารถเขียนข้อความแสดงความคิดเห็นของตนเองได้  ซึ่ง blog มีทั้งเป็น blog เฉพาะบางกลุ่ม หรือเป็น blog ทั่ว ๆ ไปก็ได้ การเพิ่มบทความให้กับ blog ที่มีอยู่ เรียกว่า “blogging”   บทความใน blog เรียกว่า “posts”  หรือ “entries” บุคคลที่โพสลงใน “entries” เหล่านี้เรียกว่า “blogger”
จุดเด่นที่สุดของ Blog ก็คือ Blog สามารถเป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถสื่อถึงความเป็นกันเองระหว่างผู้เขียนบล็อก และผู้อ่านบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนของบล็อกนั้น ๆ ผ่านทางระบบ comment ของบล็อกนั่นเอง  ความสะดวกและง่ายในการเขียน Blog ทำให้สามารถเผยแพร่ความคิดเห็นของผู้เขียน blog ได้ง่ายขึ้น รวมถึงยังมีการ comment จากผู้ที่สนใจเรื่องเดียวกันได้อีกด้วย บางครั้งทำให้เกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ เพราะบางครั้ง ข้อมูลจาก Blog เป็นข้อมูลที่ไม่เคยปรากฎที่ไหนมาก่อนอีกด้วย
เครื่องมือหรือซอฟท์แวร์ที่เราใช้ในการเขียน Blog มีมากมาย เช่น WordPress, Movable Type เป็นต้น  จึงมีผู้คนมากมายในโลก หันมาเขียน Blog กันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่นักเรียน อาจารย์ นักเขียน ตลอดจนถึงระดับบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้น NasDaq   นับได้ว่า Blog เป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ไม่ต่างจาก วีดีโอ , สิ่งพิมพ์ , โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งวิทยุ เราสามารถเรียกได้ว่า Blog ได้เข้ามาเป็นสื่อชนิดใหม่ที่สำคัญอย่างแท้จริง 
        Blog ถูกมองว่าเป็นการรวบรวมความคิดของมนุษย์ สามารถนำมาใช้ช่วยกับปัญหาด้านจิตวิทยา เช่น โรคซึมเศร้าและการเสพติด นอกจากนี้ก็สามารถนำมาช่วยแก้ปัญหาอาชญากรรมได้ เช่น ในปี 2005 นาย Simon Ng ได้โพส entry ซึ่งในที่สุดช่วยจับตัวฆาตกรได้ ไม่เพียงเท่านั้น blog ยังส่งผลให้ชนกลุ่มน้อยที่มีผู้พูดและศึกษาภาษาของชนกลุ่มนั้น ๆ ไม่มาก มารวมกลุ่มกันเช่น Scottish Gaelic blogs ซึ่งอาจจะมีประชาการอยู่ประเทศคาคักสถานและในรัฐอลาสกา ดังนั้นblogging จึงเป็นช่องทางเผยแพร่งานพิมพ์อย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ
    
 2)  Internet Forum
                     Internet Forum เป็นส่วนหนึ่งใน World Wide Web ที่มีไว้สำหรับเก็บการอภิปราย หรือซอฟต์แวร์ที่ให้บริการด้านนี้ ฟอรั่มในเว็บเริ่มประมาณปี 1995 โดยทำหน้าที่คล้ายกับ bulletin board และ newsgroup ที่มีมากมายในยุค 1980s และ 1990s ความเป็นชุมชนเสมือนของฟอรั่มเกิดจากผู้ใช้ขาประจำ ประเด็นที่เป็นที่นิยมของฟอรั่มทั่วไปมี เทคโนโลยี เกมคอมพิวเตอร์ และการเมือง เป็นต้น 
Internet forums  อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถโพสหัวข้อลงไปในกระดาน  ผู้ใช้คนอื่นๆ ก็สามารถเลือกดูหัวข้อหรือม้กระทั่งโพสความคิดเห็นของตนเองลงไปได้   ฟอรั่มโดยส่วนใหญ่จะอนุญาตให้ใครก็ได้สามารถละเบียนเข้าใช้งานได้ตลอดเวลา  มีเพียงบางฟอรั่มที่จำกัดสมาชิกให้มีความเป็นส่วนตัวโดยอาจจ่ายเงินเพียงเล็กน้อยเพื่อเข้าใช้งานเป็นกลุ่มเฉพาะ เช่น  Forum รวบรวมเกมส์ (http://www.thaigaming.com/forum) Forum เกี่ยวกับ computer และ internet (http://rcweb.net/forums )
          ฟอรั่มแต่ละที่ก็จะมีลักษณะการทำงานและการใช้งานแตกต่างกัน  เช่น บางที่สามารถใส่รูปภาพหรือแฟ้มข้อมูลต่าง ๆ ได้  บางที่มีโปรแกรมแปลและตรวจสอบการสะกดคำ เป็นต้น 
                3)  Wiki
                      Wiki  อ่านออกเสียง "wicky", "weekee" หรือ "veekee"  เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เราสามารถสร้างและแก้ไขหน้าเว็บเพจขึ้นมาใหม่ผ่านทางบราวเซอร์ โดยไม่ต้องสร้างเอกสาร html เหมือนแต่ก่อน แต่ Wiki เน้นการทำระบบสารานุกรม  , HOWTOs ที่รวมองค์ความรู้หลายๆ แขนงเข้าไว้ด้วยกันโดยเฉพาะ   มีเครื่องมือที่ใช้ทำ Wiki หลายอย่าง เช่น Wikipedia , MoinMoin , WackoWiki เป็นต้น
Wikipedia  เป็นระบบสารานุกรม(Encyclopedia) สาธารนะ ที่ทุกคนสามารถใส่ข้อมูลลงไปได้ รองรับภาษามากกว่า 70 ภาษารวมทั้งภาษาไทย สำหรับภาษาไทยสามารถเข้าอ่านได้ 
 
      4)  Instant Messaging
                    เป็นการอนุญาตให้มีการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลบนเครือข่ายที่เป็นแบบ relative privacy  ตัวอย่าง client ที่เป็นที่นิยมเช่น Gtalk  , Skype  , Meetro , ICQ , Yahoo Messenger  , MSN Messenger และ AOL Instant Messenger  เป็นต้น   ในการใช้งานดังกล่าวจะสามารถเพิ่มรายชื่อให้อยู่ใน contact list หรือ buddy list ได้  โดยการใส่ e-mail address หรือ messenger ID ลงไป   ถ้าคนๆนั้น onlineขึ้นมา ชื่อของคนนั้นจะปรากฏขึ้นมาและสามารถ chat ได้โดยการคลิกไปที่ชื่อนั้นแล้วพิมพ์ข้อความที่ต้องการสนทนาลงไปใสช่องหน้าต่างที่กำหนดให้สำหรับพิมพ์ข้อความ  รวมถึงสามารถอ่านข้อความที่โต้ตอบได้โดยอาจผ่านหน้าจอเดียวกัน  เช่น  โปรแกรม  Google Talk  ,  ICQ เป็นต้น
      5) Social network services
                    Social network services  จะอนุญาตให้ใครก็ได้แบ่งปันความรู้  สิ่งที่สนใจต่าง ๆ ร่วมกัน เช่น บางที่สร้างเพื่อเอาไว้นัดเดทกัน เพราะฉะนั้นผู้ใช้ก็อาจจะโพสข้อมูลส่วนตัว ที่อยู่ เพศ เบอร์โทรศัพท์ เพื่อให้ผู้อื่นที่สนใจสามารถค้นหาข้อมูลได้โดยสะดวก  ตัวอย่างเช่น iKarma , ArtBoom , Orkut , Friendster , Linkedin , openBC, Facebook, Twitter เป็นต้น
      6)  Social guides
                     เป็นที่สำหรับการนัดพบกันได้จริงๆ บนโลก เช่น ร้านกาแฟ ร้านอาหาร เป็นต้น  ตัวอย่างเช่น CafeSpot , Tagzania และ WikiTravel เป็นต้น
                7)  Social bookmarking
                      บางที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถโพส list of bookmark ( favorite websites )  ลงไปได้เพื่อแลกเปลี่ยนแหล่งข้อมูลที่ตนเองสนใจ  เช่น Linko , Spurl , BlinkList , RawSugar เป็นต้น
                8)  Social Citations
                      มีลักษณะคล้าย social bookmarking มาก  แต่จะเน้นไปทางด้านการศึกษาของนิสิต นักศึกษา โดยอนุญาตให้ผู้ใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลต่าง ๆ งานวิจัย หรือสาระความรู้ที่สนใจ โดยสามารถแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ ตามแต่ผู้ใช้จะจัดสรร ตัวอย่างเช่น  CiteUlink  เป็นต้น
                9)  Social Shopping Applications
                      มีประโยชน์ในเรื่องการเปรียบเทียบสินค้า  ดูรายการสินค้า เป็นต้น ตัวอย่างเช่น SwagRoll, Kaboodle , thethingsiwant.com และ Yahoo! Shoposphere
                10)  Internet Relay Chat
                       Internet Relay Chat หรือ IRC  จะอนุญาตให้ผู้ใช้สนทนาในห้อง chat rooms ซึ่งอาจมีหลายๆคนที่เข้าใช้งานในกลุ่มสนทนาในห้องดังกล่าว  ผู้ใช้สามารถสร้างห้องใหม่หรือเข้าไปในห้องที่มีอยู่แล้วก็ได้  ทั้งนี้ผู้ใช้คนนั้นๆ อาจพิมพ์ข้อความลงไปแล้วให้คนทั้งห้องอ่านได้  ซึ่งผู้ใช้ในห้องแต่ละห้องอาจจะมีการเข้าไปใช้งานและออกจากห้องสนทนาอยู่ตลอด   ผู้ใช้ยังสามารถเชิญผู้ใช้คนอื่นเข้ามาร่วมสนทนาในห้องที่ตนเองอยู่หรือเป็นผู้สร้างเองก็ได้  ซึ่งในการสนทนาระหว่างกันนั้นจะเป็นแบบหนึ่งต่อหนึ่ง หรือหลายต่อหลายก็ได้               

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น